รับฟังบรรยาย โครงการอบรม "ผลประโยชน์ทับซ้อน"
วันที่ 16 ธันวาคม 2567 นางสาวพิมพ์ณิตศา กลิ่นจันทร์ นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 2 พร้อมทั้งบุคลากร สสพ.2 เข้าร่วมรับฟังโครงการอบรมทางไกล (Conference) เรื่อง การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน ณ ห้องประชุมสำนักงานฯ ระหว่างเวลา 13.00 – 16.30 น. ซึ่งถ่ายทอดจากห้องประชุมชั้น 3 อาคารฝึกอบรมส่วนกลาง สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ โดยมี นางสาววิศรา รัตนสมัย ผู้อำนวยการสถาบันป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นวิทยากรบรรยายผ่านระบบ Zoom Meeting
ผลประโยชน์ทับซ้อน หรือ ความชัดแย้งกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม เป็นประเด็นปัญหาทางการบริหารภาครัฐในปัจจุบันที่เป็นปัญหารุนแรง และยังสะท้อนปัญหาการขาดหลักธรรมาภิบาล และเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ถือเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นประเภทหนึ่ง เพราะเป็นการแสวงหาผลส่วนบุคคลโดยการละเมิดต่อกฎหมาย หรือจริยธรรม ด้วยการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ไปแทรกแซง การใช้ดุลยพินิจในกระบวนการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐ จนทำให้เกิดการละทิ้งคุณธรรมในการปฏิบัติหน้าที่สาธารณะ ขาดความเป็นอิสระ ความเป็นกลาง และความเป็นธรรม จนส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะของส่วนรวม ทำให้ผลประโยชน์ขององค์กร หน่วยงาน สถาบันและสังคม ต้องสูญเสียไป ดังนั้น หากข้าราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขาดจิตสำนึกในหน้าที่ที่จะปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ มีการใช้อำนาจโดยมิชอบในการดำเนินกิจกรรมเพื่อเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อตนเอง กลุ่มพรรคพวก เพื่อนพ้อง เหนือผลประโยชน์ส่วนรวม ย่อมส่งผลกระทบต่อหน่วยงาน และสร้างความเสียหายต่อองค์กรได้ หน่วยงานภาครัฐจึงควรสร้างความตระหนักและหามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเพื่อนำมาสู่การปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมและค่านิยม การสร้างจิตสำนึกและเสริมสร้างจริยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐในการทำงานเพื่อส่วนรวม ยึดถือหลักจริยธรรมและผลประโยชน์ส่วนรวมในการปฏิบัติหน้าที่ราชการเป็นสำคัญ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรกรมส่งเสริมสหกรณ์ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน และนำไปปรับใช้ ในการปฏิบัติราชการ ปลูกจิตสำนึกหรือสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่จะไม่รับของขวัญหรือของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ กลุ่มเป้าหมายได้แก่ ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 1,500 คน